เมืองพาราณสีในอดีตมีชื่อว่าเมืองโมฬินีนคร ในสมัยพระเจ้าพรหมทัต มีพราหมณ์ผู้มั่งมีคนหนึ่งชื่อสังขะ พราหมณ์คนนี้มีนิสัยชอบทำทาน ท่านตั้งโรงทานไว้ 6 แห่งทั่วเมือง คือที่ประตูเข้าเมืองทั้งสี่ทิศ ที่ใจกลางเมือง และที่บ้านของตน เพื่อให้เป็นมหาทานแก่คนยากจนและคนเดินทางทุกวัน
เมื่อให้ทานเป็นจำนวนมาก ท่านจึงคิดว่าหากทรัพย์ที่มีหมดลงก็จะไม่ได้ให้ทานอีก พราหมณ์จึงตั้งใจนำสินค้าไปขายยังที่อื่นเพื่อให้ได้กำไรมาทำทานต่อไป ก่อนไปท่านได้สั่งลูกและภรรยาให้ทำทานต่อไปจนกว่าท่านจะกลับมา พราหมณ์สังขะพร้อมด้วยเหล่าบริวารจึงเดินทางออกจากเมือง
ในครั้งนั้นมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง กำลังตรวจดูสัตว์โลกหลังออกจากนิโรธสมาบัติ เห็นพราหมณ์สังขะกำลังจะประสบภัย จึงต้องการโปรดให้พราหมณ์ได้ทำบุญ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจึงปรากฏกายไม่ไกลจากที่พราหมณ์กำลังเดินอยู่
ท่ามกลางแดดร้อนระอุในช่วงเที่ยงวัน เมื่อพราหมณ์สังขะเห็นพระสงฆ์เดินมาจึงไม่รอช้ารีบใช้โอกาสนั้นในการถวายทานโดยไม่คำนึงถึงทุกข์ร้อนของตนเอง ท่านถอดรองเท้าออกแล้วเข้าไปนิมนต์พระปัจเจกพุทธเจ้าเข้าใต้ร่มไม้ ทำความสะอาดรองเท้าที่ได้สวมใส่ ล้างเท้าพระปัจเจกพุทธเจ้าด้วยน้ำ แล้วสวมรองเท้าและถวายร่มแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าด้วยความนอบน้อม พระปัจเจกพุทธเจ้ารับทานของพราหมณ์
จากนั้นพราหมณ์สังขะก็ลงเรือไปค้าขาย เมื่ออยู่ในมหาสมุทรในวันที่เจ็ด เรือเกิดล่ม ขณะนั้นผู้คนต่างหวาดกลัวพร่ำร้องขอความช่วยเหลือ พราหมณ์จึงพาคนรับใช้คนหนึ่งไปทาน้ำมันทั่วตัวทั้งสองคน แล้วให้กินน้ำตาลกรวดกับเนยใสให้มากที่สุด แล้วขึ้นเสากระโดงเรือเพื่อดูทิศทางของเมืองที่จะไป ตั้งจิตอธิษฐานให้พ้นอันตรายจากสัตว์ทะเล แล้วลงมาพากันว่ายน้ำเข้าฝั่ง
ในครั้งนั้นนางเทพธิดามณีเมขลาซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้คุ้มครองมหาบุรุษ จึงลงมาให้การช่วยเหลือพราหมณ์สังขะได้ทันท่วงที นางเทพธิดามอบอาหารและยาให้กับพราหมณ์สังขะ พราหมณ์จึงถามนางเทพธิดามณีเมขลาว่าเหตุใดนางจึงมาช่วยเขา เทพธิดามณีเมขลาจึงตอบว่าเป็นผลบุญที่พราหมณ์ได้ถวายรองเท้าและร่มแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าในวันขึ้นเรือ พราหมณ์มีความยินดีในผลบุญที่ได้กระทำจึงบอกกล่าวแก่เทพธิดามณีเมขลาว่าตนต้องการจะกลับเข้าเมืองในวันนั้น
เทพธิดามณีเมขลามีความยินดีในบุญของพราหมณ์ จึงช่วยเนรมิตเรือพร้อมข้าวของแก้วแหวนเงินทองจะนำพราหมณ์เข้าถึงฝั่ง แต่นางเทพธิดามณีเมขลาไม่เห็นบุรุษคนรับใช้ พราหมณ์จึงแผ่ส่วนบุญจากความดีที่ได้กระทำให้คนรับใช้ คนรับใช้ก็อนุโมทนา เทพธิดามณีเมขลาจึงสามารถมองเห็นบุรุษคนรับใช้และเชิญขึ้นเรือไปพร้อมกับพราหมณ์สังขะ และส่งถึงบ้านเมืองโดยปลอดภัย
พราหมณ์สังขะได้อยู่ครองเรือนด้วยทรัพย์สมบัติมหาศาล ได้ทำทานมากมาย รักษาศีลมิได้ขาด จนตลอดชีวิต
เทพธิดามณีเมขลา ในครั้งนั้น คืออุบลวรรณาเถรี ในครั้งนี้
บุรุษผู้รับใช้ ในครั้งนั้น คือพระอานนทเถระในครั้งนี้
พราหมณ์สังขะ คือพระบรมศาสดาพระพุทธเจ้าในครั้งนี้
สังขพราหมณจริยา – การบำเพ็ญทานบารมี เรียบเรียงจาก พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕ อรรถกถา ขุททกนิกาย จริยาปิฎก การบำเพ็ญทานบารมี
ขอให้เพื่อน ๆ มีความสุขในการทำทานบารมีค่ะ